วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

>สุขภาพ @ 7 จุดควรนวดเพื่อคลายเครียด

ความเครียดเป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ปวดต้นคอ และปวดหลัง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การนวดจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้เราได้ เพราะได้ไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัว หายเครียด และลดอาการเจ็บปวดต่างๆ ลง
       
       ทั้งนี้ การนวดนี้เราจะใช้การนวดไทย ซึ่งสามารถนวดได้ด้วยตัวเอง และเหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยต้นคอ บ่า และไหล่ อันเนื่องมาจากความเครียด แต่ข้อควรระวังคือไม่ควรนวดขณะที่กำลังเป็นไข้ หรือกล้ามเนื้ออักเสบหรือเป็นโรคผิวหนัง และควรตัดเล็บให้สั้นทุกครั้งก่อนนวด
       
       สำหรับการนวดที่ถูกวิธีคือ 1.กดโดยใช้ปลายนิ่วที่ถนัด ได้แก่ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้หรือนิ้วกลาง 2.ใช้การกดและการปล่อยเป็นส่วนใหญ่ โดยใช้เวลากดแต่ละครั้งประมาณ 10 วินาที และใช้เวลาปล่อยนานกว่าเวลากด 3.การกดให้ค่อยๆ เพิ่มแรงทีละน้อย และเวลาปล่อยให้ค่อยๆ ปล่อย และ 4.แต่ละจุดควรรนวดซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง
       
       โดยจุดที่ควรนวดเพื่อคลายเครียดมีด้วยกัน 7 จัด ได้แก่
       
   
1.จุดกลางระหว่างคิ้ว ใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง


2.จุดใต้หัวคิ้ว ใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง



3.จุดขอบกระดูกท้ายทอย จุดกึ่งกลางใช้นิ้วหัวแม่มือกด 3-5 ครั้ง จุดสองจุดด้านข้าง ใช้วิธีประสานมือบริเวณท้ายทอยแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดจุดสองจุดพร้อมๆ กัน 3-5 ครั้ง



4.บริเวณต้นคอ ประสานมือบริเวณท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดตามแนวสองข้างของกระดูกต้นคอ โดยกดไล่จากตีนผมลงมาถึงบริเวณบ่า 3-5 ครั้ง


       
 5.บริเวณบ่า ใช้ปลายนิ้วมือขวาบีบไหล่ซ้ายจากบ่าเข้าหาต้นคอ ใช้ปลายนิ้วมือซ้ายบีบไหล่ขวาเข้าหาต้นคอ ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง

6.บริเวณบ่าด้านหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดจุดใต้กระดูกไหปลาร้า จุดต้นแขน และจุดเหนือรักแร้ของบ่าซ้าย ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดจุดเดียวกันที่บ่าขวา ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง



7.บริเวณบ่าด้านหลัง ใช้นิ้วที่ถนัดของมือขวาอ้อมไปกดจุดบนและจุดกลางของกระดูกสะบัก และจุดรักแร้ด้านหลังของบ่าซ้าย ใช้นิ้วที่ถนัดของมือซ้ายกดจุดเดียวกันที่บ่าขวาทำซ้ำ 3-5 ครั้ง



 เพียงเท่านี้ความเครียดที่เกิดขึ้นก็พร้อมมลายหายไป ช่วยให้คุณกลับมากระปรี้ประเปร่า สดชื่นได้อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

>สุขภาพ @ วิธีการกดข้อนิ้วเพื่อรักษา 9 โรค


กดข้อนิ้วป้องและกระตุ้นการรักษาโรคค่ะ

วันนี้ขอนำเสนอเสนอวิธีการกดข้อนิ้วเพื่อรักษา 9 โรคค่ะ

1. โรคตับ กดคลึงข้อทั้ง 2 ของหัวแม่มือขวา

2. หูอื้อ กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง

3. ปวดเข่า กดคลึงด้านข้างทั้ง 3 ของนิ้วก้อยมือซ้าย

4. เบาหวาน กดคลึงข้อทั้ง 2 ของหัวมือมือซ้าย

5. ความดันโลหิตสูง กดคลึงโคนนิ้วก้อยมือซ้าย

6. หัวใจ กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วก้อยมือซ้าย

7. ปวดประจำเดือน กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วชี้ทั้ง 2 ข้าง

8. ตาเมื่อย กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วกลางมือขวา

9. เสริมพลังแก่ร่างกาย กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วกลางมือซ้าย

แต่ละจุดให้กดคลึงครั้งละ 3 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้ามีไข้หรือนิ้วมีบาดแผลควรหยุดทำค่ะ

โดย ทางแพทย์สายพุทธ
ขอขอบคุณความรู้ดีดีจากหนังสือชีวจิต

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

>สุขภาพ @ ประโยชน์ของน้ำมะนาว


ทานน้ำด่าง ง่ายๆ ( น้ำมะนาวแช่ใส่น้ำเย็น/โซดา )

ตัดชิ้นบางๆ ของมะนาว🍋ใส่ในแก้วหรือ ในโถเหยือก แล้วดื่ม มันจะกลายเป็นน้ำที่มีความเป็นด่างสูงมาก 

เชื้อโรคในร่างกาย ไม่สามารถเติบโตในสภาพที่มีความเป็นด่าง ดังนั้น การทานน้ำด่าง จึงช่วยทำลายเชื้อโรค ดื่มน้ำด่าง ทั้งวัน ทุกวัน จะทำให้มีสุขภาพดีขึ้นมาก

มะนาวให้ประโยชน์มหัศจรรย์ ดั่งที่ สถาบันทางวิทยาศาตร์อนามัย ระบุว่า นี่คือ ยาที่มีผลต่อมะเร็งดีเยี่ยมล่าสุดของโลก โปรดอ่านแล้วท่านตัดสินเองแล้วกัน

มะนาว 🍋 เป็นผลิตผลที่มหัศจรรย์มากที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้เป็น 1หมื่นเท่า มากกว่า-เคโมเทอราฟี ..

ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะว่าปฏิบัติการห้องแล็บส่วนใหญ่นั้น ไม่ยอมพูดเรื่องนี้เลย มันจะทำให้สูญเสียผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ไป

เราท่านทั้งหลายสามารถช่วยเพื่อนท่านได้ ในการบอกให้เขาหรือเธอเหล่านั้น ว่า 🍋น้ำมะนาวนั้น มีประโยชน์ยิ่งในการป้องกัน โรคภัยไข้เจ็บ มีรสชาติที่ดี และไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการฉีดคีโมฯ คนมากมายอาจตาย ในขณะที่ความลับที่ป้องกันมะเร็งนี้ได้ถูกเก็บงำเอาไว้เพื่อไม่ให้ต้องการทำลายผลประโยชน์ นับล้านๆ ของบริษัทยาใหญ่ๆ

ทราบไหมว่า ต้นมะนาวนี้ (มะนาวแป้น มะนาวทุกชนิด) ท่านจะกินมะนาวเหล่านี้ในวิธีต่างๆก็ได้ เช่น กินเปลือก กินน้ำ หรือคั้น หรือเตรียมเป็นเครื่องดื่มใดๆ ก็ตาม แต่ที่เราชอบ และมันทำได้หลายอย่าง แต่ถ้าดื่มน้ำ🍋มะนาวผสมกับโซดา จะทำให้น้ำมะนาว 🍋ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ที่น่าสนใจ คือ มันขจัด ซีด (ก้อนเนื้อร้าย) ..

ผลไม้ชนิดนี้ พิสูจน์แล้ววา สามารถต่อต้านมะเร็งได้ อย่างดีเยี่ยม มีคนกล่าวไว้ว่า

🍋 มันมีผลประโยชน์ สำหรับมะเร็งหลายชนิด
🍋 มันป้องกันการอักเสบของเชื้อแบตทีเรีย เชื้อราได้
🍋 มันสามารถที่จะต่อต้านพาราไซส์ที่อยู่ข้างใน
🍋 มันทำให้เกร็ดลือดที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป
เข้าสู่ภาวะปกติ
🍋 มันทำให้คลายเครียด
🍋 ต่อต้านโรคประสาท โรคฟุ้งซ่านได้ด้วย

ข่าวสารเรื่องนี้หน้าสนใจมาก มันมาจากบริษัทยาใหญ่หลายบริษัทในโลก ซึ่งมากกว่า 20 บริษัทได้ทำการทดลองเรื่องนี้ ผลการทดลองเปิดเผยออกมาได้ว่า 🍋 มะนาวนี้สามารถทำลายมะเร็งเนื้อร้ายที่รุนแรง
ได้ถึง 12 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
- มะเร็งลำไส้เล็ก
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งปอด
- มะเร็งตับอ่อน

🍋ส่วนผสมของไซทัสหรือมะนาว มีความสามารถในการทำลายมะเร็งได้มากกว่ายาที่ใช้การทำคีโม ทำให้การเจริญเติบโตของเซลมะเร็งนั้นหยุดอยู่กับที่(คงที่)

นอกจากนี้ 🍋 มันยังเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมาก การรักษาด้วยมะนาวนี้ สามารถทำลายต่อต้านมะเร็งได้อย่างรุนแรง โดยไม่มีผลข้างเคียง


>สุขภาพ @ ประโยชน์จากน้ำส้มสายชู


1. ลดไข้ : ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำเปล่า 2 ส่วน นำผ้าขนหนูมาชุบแล้วเช็ดตัวคนไข้
2. แก้เจ็บคอ : นำใบสะระแหน่มาขยี้ผสมน้ำส้มสายชูแล้วอมไว้ หรือจะใช้น้ำมันสะระแหน่ผสมกับน้ำส้มสายชูก็ได้ ได้ผลดีกว่า
3. แก้ฝ้า : ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชากับไข่ขาวของไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้พอขึ้นฟอง นำมาพอกหน้าก่อนนอน
4. ป้องกันผ้าสีตก : ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยลงในน้ำแช่ผ้า แล้วแช่ผ้าไว้สัก 15 นาทีก่อนนำไปซักตามปกติ
5. ช่วยให้น้ำยาทาเล็บติดทนนาน : จุ่มเล็บลงในน้ำส้มสายชูก่อนทาเล็บสัก 2-3 นาที หรือนำสำลีชุบน้ำส้มสายชูมาเช็ดถูตามเล็บก่อนทาก็ได้
6. ขัดหม้ออะลูมิเนียม : ผสมน้ำส้มสายชู 1 - 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่าต้มให้เดือดประมาณ 30 นาที แล้วพักไว้ให้เย็นใช้ฝอยขัดหม้อขัดไปในทางเดียวกันจะทำให้คราบดำหลุดออกง่ายขึ้น
7. ขัดพื้นไม้ : ผสมน้ำส้มสายชู น้ำมันลินซีด แอลกอฮอล์จุดไฟ ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน ใช้ขัดพื้นไม้ได้เงางามดี
8. แก้กุ้งมีกลิ่นคาว : ผสมน้ำส้มสายชู 1 - 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่า นำกุ้งลงแช่ประมาณ 15 นาที กุ้งจะขาวขึ้นและกลิ่นคาวหายไป
9. ต้มผักให้กรอบ : ผสมน้ำส้มสายชู 1 - 2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำต้มผัก ผักจะกรอบและมีสีเขียวสดใส
10. ต้มปลาไม่ให้เนื้อแตก : ผสมน้ำส้มสายชู 1 - 2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำต้มปลา เนื้อปลาจะไม่แตกจากกัน